Custom Search

วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552

สิว_กับโชคด้าน_ความรัก



สิว_กับโชคด้าน_ความรัก

รู้หรือไม่ว่า สิว? ไม่เพียงแต่บั่นทอนบุคลิกภาพของคุณเท่านั้น แต่ยังเป็นอันตรายต่อชีวิตรักด้วยถ้าอยู่ในจุดที่เกี่ยวกับสัมพันธภาพ คุณจะพบพานเรื่องดีๆ ร้ายๆ กับคนผู้เป็นที่รักมากขึ้น ถ้าช่วงระยะไหนเกิดมีสิวขึ้นมาที่จุดสำคัญ สิวที่ส่วนต่างๆ บนใบหน้าในแต่ละที่จะบ่งความหมายแตกต่างกันไป และคุณควรเตรียมใจรับเรื่องรันทดในคราวที่เกิดสิวขึ้นตรงนั้น



ตรงหว่างคิ้ว - อารมณ์เสียง่าย
คุณจะพยายามจับผิดเขา/เธอ อย่างบ่อยที่สุดที่จะทำได้ คุณทั้งสองจึงอารมณ์เสียง่าย แถมสิ่งที่แย่สุดก็คือ...ต่อให้คู่รักของคุณเข้ามาปลอบโยน คุณก็ยังกล่าวโทษเขาหรือเธออย่างไม่เลิกราอยู่ดี

ในคิ้วตรงช่วงปลาย - การทะเลาะเบาะแว้ง
คุณสองคนจะทะเลาะกันโดยไร้เหตุผล และมีอารมณ์ร้ายสุดๆ เอาแต่ขมวดคิ้วนิ่วหน้า โดยสิวที่ปลายคิ้วซ้ายด้านในหมายถึงปัญหาที่เกิดจากฝ่ายชาย ขณะที่สิวที่เกิดคิ้วขวาด้านในหมายถึงปัญหาเกิดจากฝ่ายหญิง



มุมหัวตา - ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปมีสัมพันธ์รัก

คุณจะต้องพบกับความยุ่งยากที่สุดในความสัมพันธ์ และอาจเกี่ยวพันกับรักสามเส้าได้ โดยสิวที่มุมหัวตาซ้ายหมายถึงฝ่ายหญิงไปมีนัดควงกับชายอื่น ในขณะที่สิวตรงมุมหัวตาขวาหมายถึงฝ่ายชายไปมีสัมพันธ์รักกับสาวอื่น



มุมหางตา - สุขภาพไม่ดีและอารมณ์อ่อนไหวย่ำแย่
สุขภาพทั้งกายและใจของคุณจัดว่ากำลังตกอยู่ในความเสี่ยง การทะเลาะกันเป็นประจำทุกวันนับเป็นความเครียดต่อทั้งสองฝ่าย สิวที่มุมหางตาซ้ายหมายถึงฝ่ายชายจะล้มป่วย ส่วนสิวที่มุมหางตาขวาหมายถึงฝ่ายหญิงป่วย แต่ปัญหาเจ็บป่วยนั้นเป็นอาการประเภทเล็กน้อยไม่ได้ใหญ่โตอะไรมาก เช่น เจ็บคอ จับไข้ เป็นหวัด และคุณจะกลับมาสบายดีเมื่อสิวหายไป ...น่าสนใจไหมครับสำหรับภูมิปัญญาของจีนโบราณ ที่สามารถบอกได้อย่างแม่นยำเช่นนี้



ดั้งสันจมูก - การทะเลาะเบาะแว้ง
จัดเป็นบริเวณของความสัมพันธ์ฉันท์คู่ครอง และสิวที่บังเกิดตรงนี้หมายถึงคุณสองคนจะทะเลาะเบาะแว้งกันทั้งวัน ซึ่งคุณอาจต้องรอให้สิวหายถึงจะหยุดลั่นกระสุนใส่กันได้



กลางจมูก - ป่วยด้วยกัน
สิวที่บริเวณกระดูกจมูกเป็นสัญญาณถึงการล้มเจ็บ โดยที่โรคภัยไข้เจ็บจะส่งผ่านไปถึงอีกคนด้วย โชคดีที่เป็นแค่การป่วยไข้เล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น เช่น เป็นหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ถ้าสิวอยู่ตรงกระดูกจมูกส่วนบน เจ้าตัวจะป่วยเอง แต่ถ้าสิวอยู่ที่กระดูกจมูกส่วนล่าง บ่งว่าแฟนของผู้นั้นจะเจ็บป่วย ดังนั้น...โปรดระงับพฤติกรรมสนิทชิดใกล้กันไปสักพักก่อน รีบไปรักษาตัวเองให้หาย แล้วค่อยกลับไปเจอคนรัก



เหนือริมฝีปากบน ชีวิตเซ็กซ์ย่ำแย่
สิ่งนี้มีความสำคัญสำหรับชีวิตสมรส เนื่องจากสิวที่จุดนี้กำลังบอกโลกทั้งโลกว่า...คุณมีชีวิตเซ็กซ์ที่ใช้การไม่ได้ ซึ่งอาจชักนำไปสู่วิกฤตในชีวิตรัก ถ้าคุณต้องการปกป้องรักษาเอาไว้ ก็ควรรู้จักการปลดปล่อยตนเองและรื่นรมย์กับเรื่องบนเตียงมากขึ้น หาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องวิธีการที่จะทำให้คนรักมีความสุขกับการเสพสมมากกว่าเดิม ซึ่งเดี๋ยวนี้ในอินเตอร์เนตก็มีเรื่องอย่างว่าให้ค้นคว้าออกจะดาดดื่น แต่ถ้ายังไม่แต่งงาน...เรื่องอย่างว่านี้ก็คงถือว่าไม่ใช่เรื่องซีเรียสอะไร



สิวตรงจุดวัยของคุณ - สัญญาณหลักที่บ่งบอกการเลิกร้าง
คุณไม่จำเป็นต้องกังวลถ้ามีสิวอยู่เต็มหน้า เฉพาะเวลาที่เกิดสิวขึ้นมาบริเวณจุดที่ตรงกับช่วงอายุของคุณเท่านั้นที่จัดว่าไม่ดีจริงๆ ที่อาจถึงขั้นเลิกร้างกันไปได้ง่ายๆ ลองดูตารางข้างล่างประกอบกับตัวอย่าง เช่น สิวตรงกลางจมูกก็จะไม่ดีมากๆ ถ้าคุณอายุอยู่ระหว่าง 41-44 ปี แต่ถ้าตอนนี้คุณไม่ได้อยู่ในวัยดังกล่าว ปัญหาก็คงไม่ได้เป็นเรื่องร้ายแรงอะไร







ไม่รวยก็สวย _ได้ๆ


ผิวดีเริ่มต้นที่ตัวเรา
การดูแลผิวไม่ได้หมายถึงการบำรุงด้วยครีมแพงๆเสมอไป แค่คุณเลิกดื่มชา กาแฟหรือแอลกอฮอล์ได้ หรือหัดทำ Dry Skin Brushing (การแปรงผิวแบบแห้งเพื่อช่วยขับพิษจากระบบต่อมน้ำเหลือง) ทุกวันก่อนอาบน้ำ เพียงเท่านี้ก็รับรองได้ว่าจะเห็นความแตกต่างที่ดีขึ้นภายในไม่กี่วัน

เคล็ดลับ
บริษัทเครื่องสำอางใหญ่ระดับโลกที่มีสินค้าหลายๆ ราคา มักมีแนวคิดที่จะรองรับความต้องการของผู้บริโภคทุกระดับงบประมาณ หากเราใจเย็นสักนิดแล้วรออีกเพียง 2-3 เดือนหลังจากที่สินค้าราคาสูงออกวางตลาด ถึงตอนนั้นเราก็จะได้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเหมือนหรือใกล้เคียงกับสินค้าราคาสูง แต่มาในราคาย่อมเยากว่า
แน่นอนว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีก็มีส่วนช่วยได้มากเหมือน แต่แทนที่จะต้องเสียเงินเสียเวลา และน้ำมันรถไปทำทรีตเมนต์ที่ร้าน ทำไมไม่ลงทุนซื้อสกินแคร์และครีมนวดหน้าดีๆมาใช้เองล่ะ เพราะถึงอย่างไรทำเองก็ย่อมสะดวกกว่าอยู่แล้ว และของก็ใช้ได้นาน ไม่แพงเหมือนไปทำที่ซาลอนเป็นครั้งๆ
อย่ามองข้ามการดื่มน้ำเปล่าสะอาดๆวันละ 8 แก้วกับการนอนวันละ 6-8 ชั่วโมง เพราะนี่คือตัวบำรุงผิวให้สดใสที่ราคาถูกและดีที่สุดในโลก

เมกอัพสวยราวกับเศรษฐี
คนที่แต่งหน้าแล้วดูเนี้ยบสวยไม่ได้แปลว่าเครื่องสำอางทุกชิ้นที่ใช้จะมีราคาเป็นหลักร้อยหลักพันขึ้นไปแต่อย่างเดียวหรือต้องแต่งหน้าแบบครบเครื่องตลอดเวลา เมกอัพที่จำเป็นจริงๆสำหรับผู้หญิงนั้นมีเพียงสามชิ้น คือ มาสคาร่า บลัชออน และลิปกลอส แต่สำหรับสาวไทยอาจเพิ่มแป้งทูเวย์มาช่วยเสริมให้หน้าดูนวลใส และหากดัดขนตาก่อนปัดมาสคาร่าก็จะยิ่งดูตาโตและเพิ่มความงอนสวยติดทนนานยิ่งขึ้น ปัดแก้มด้วยบลัชสีส้มพีชอ่อนๆ แต้มกลอสชนิดใสไร้สีให้ริมฝีปากดูมันวาวนิดๆ เท่านี้ก็ดูดีได้แล้ว


ควรลงทุนกับ
อายแชโดว์ รองพื้น แป้งฝุ่น คอนซีลเลอร์ แปรงและอุปกรณ์แต่งหน้า

ควรประหยัด
ลิปสติก ลิปกลอส ลิปบาล์ม มาสคาร่า ลิปไลเนอร์ บลัชออน บรอนเซอร์ กระดาษซับหน้ามัน

เรียวขาเกลี้ยงเกลา
ทั้งสาวไทยและสาวเทศหลายคนที่นิยมแว๊กซ์กำจัดขนแต่แม้จะทำเองราคาก็ยังแพงอยู่ ดังนั้น การสครับผิวบ่อยๆนอกจากจะช่วยชะลอการเกิดใหม่ของขนและยืดอายุการแว๊กซ์ครั้งต่อไปแล้ว ยังช่วยให้ผิวเนียนดีด้วย

เคล็ดลับ
ควรหมั่นสครับผิว แล้วตามด้วยการหาครีมบำรุงเนื้อข้นๆเป็นประจำ
การโกนเป็นทางเลือกที่ง่ายและถูกกว่าเสมอ

เรือนผม สุด ไฮคลาส
เรือนผมที่ดูเปล่งราศีความมีระดับคือผมที่เป็นประกายเงางามและมีชีวิตชีวา คล้ายๆผมของนางแบบที่สะบัดไปมาในโฆษณาแชมพูนั่นล่ะ และที่สำคัญคือเรื่องความสะอาด การใช้คอนดิชันเนอร์ที่ดีและแปรงผมเส้นใยธรรมชาติที่มีคุณภาพ ล้วนแต่ช่วยให้เกล็ดผมเรียบสลวยดูดีได้ทั้งสิ้น
เคล็ดลับ
ลงทุนซื้อทรีตเมนต์มาหมักผมเองที่บ้านบ่อยดีกว่าไปทำที่ร้าน
อย่าขี้เหนียวในการทำสีและไฮไลต์กับช่างดีๆ
สระ ดราย หรือหนีบผมเป็นเรื่องที่คุณทำเองได้ ถูกกว่าให้ร้านทำ
ทำสีผมแล้วอย่าลืมใช้แชมพูและครีมนวดที่ช่วยรักษาสีผมด้วย จะได้ยืดอายุการทำครั้งต่อไปได้นานๆ
ผมม้าสามารถเล็มเองได้ที่หน้ากระจกเราเอง

เล็บงาม
เราสามารถทำทรีทเมนต์เท้าและเล็บได้เอง โดยใช้นมผงละลายน้ำอุ่นพร้อมหยดน้ำมันอัลมอนด์ลงไปแล้วแช่เท้าไว้สักครู่ ก่อนตัดแต่งเล็บและหนังต่อไป เท้าจะนุ่มขึ้นและเล็บจะดูเงาสวยมากๆ
เคล็ดลับ
หัดตัดเล็บและหนังเองจะช่วยประหยัดได้มาก
ควรลงทุนกับอุปกรณ์ตัดแต่งเล็บดีๆ สักชุด เพราะทั้งทนทานและสะอาดกว่าไปทำที่ร้าน
ควรซื้อตะไบดีๆมีคุณภาพไว้ใช้แทนตะไบเหล็กราคาถูก เพราะช่วยถนอมเล็บไม่ให้ฉีกขาดได้ดีกว่า
หมั่นทาโลชั่นบำรุงมือ (ที่ไม่จำเป็นต้องแพง) หลังล้างมือหรือทำงานบ้าน
หากชอบเปลี่ยนสีเล็บบ่อยๆ ควรซื้อเบสและท็อปโค้ตดีๆมาใช้ เล็บจะได้ไม่เหลืองแม้จะใช้ทายาทาเล็บราคาถูก

การรักษาผิวพรรณ _การดูแลผิวพรรณ



การรักษาผิวพรรณ _การดูแลผิวพรรณ

แสงแดดมีคุณค่าและประโยชน์ต่อสรรพสิ่งต่าง ๆ บนโลกใบนี้แต่เมื่อมีคุณค่าและประโยชน์แล้ว ในทางกลับกัน ก็สามารถทำลายได้เช่นกัน ยิ่งสำหรับผิวพรรณแล้ว แสงแดดเป็นศัตรูร้ายเชียวครับ

เพราะถ้าหากคุณทำงานที่ต้องอยู่กลางแดดนาน ๆ ผิวของคุณจะไหม้เกรียมและเป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ดูแก่ก่อนวัย นอกจากนี้ยังไปกระตุ้นให้เกิดฝ้า เท่านั้นยังไม่พออีกนะครับ ยังจะมากระตุ้นให้เกิดกระขึ้นอีก

สำหรับคนที่เป็นกระอยู่ก่อนแล้ว หากโดนแสงแดดเข้าอีกก็จะยิ่งทำให้สีของเจ้ากระตัวนี้เข้มขึ้นไปอีก และก่อนที่หมอจะแนะนำวิธีการรักษากระ เรามาทำความรู้จักกับเจ้ากระก่อนดีกว่า

โดยทั่วไปแล้วได้แบ่ง กระ ไว้เป็น 4 ชนิดด้วยกันครับ

1. กระตื้น ลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเล็ก ๆ มีขนาดไม่เกิน 0.5 เซนติเมตร ขอบเขตไม่ชัดเจน และมักพบกระจายทั่วใบหน้า ถ้าโดนแดดสีมักจะเข้มขึ้น แต่ถ้าไม่โดนแดดนาน ๆ สีมักจะจางลงได้เอง

2. กระลึก ลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเทา ๆ เห็นเป็นเงาส่วนใหญ่อยู่บริเวณโหนกแก้ม 2 ข้าง

3. กระเนื้อ มีลักษณะเป็นตุ่มสีน้ำตาล หรืออาจเป็นสีดำเป็นก้อนเล็ก ๆ ผิวเรียบหรือขรุขระก็ได้ บางครั้งดูคล้ายหูด มักพบบริเวณใบหน้า คอ หรือลำตัวก็ได้

4. กระแดด มีลักษณะเป็นดวงสีน้ำตาล ผิวเรียบ ส่วนใหญ่พบในคนสูงอายุหรือคนที่ต้องทำงานอยู่กลางแสงแดดเป็นเวลานาน

สาเหตุใหญ่

ที่ทำให้เกิดกระ คือ พันธุกรรม ก็คือรับมรดกจากบรรพบุรุษนั่นแหละ ถ้าปู่ ย่า ตา ยาย รักคุณมากๆ ก็ได้มากครับ และอีกตัวการคือ แสงแดด ในชีวิตประจำวันเรามีโอกาสที่จะเผชิญกับแสงแดดอยู่เสมอ จึงควรหลีกเลี่ยงและหาทางป้องกันครับ เช่น ใช้ครีมกันแดด สวมหมวก กางร่ม หรือสวมเสื้อแขนยาว เป็นต้น

ปัญหาของกระ ควรได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เนื่องจากกระแต่ละชนิดมีวิธีในการดูแลรักษาที่แตกต่างกันไป โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ตรวจและวินิจฉัยว่าเป็นประเภทใด เพื่อที่จะได้ใช้วิธีการรักษาผิวพรรณที่เหมาะสม เช่น

1. กระตื้น สามารถรักษาโดยใช้ยาทา จี้ด้วยน้ำยา TCA หรือรักษาด้วยเลเซอร์

2. กระลึก สามารถรักษาโดยใช้ยาทา หรือรักษาด้วยเลเซอร์

3. กระเนื้อ สามารถรักษาโดยใช้เครื่องจี้ไฟฟ้า หรือเลเซอร์

4. กระแดด สามารถรักษาโดยใช้เลเซอร์

เมื่อคุณได้รับการรักษาจากแพทย์แล้ว เพื่อให้การรักษาได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจ หลังการรักษาคุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ดังนี้

1. การรักษาด้วยการจี้ TCA การจี้ด้วยเครื่องจี้ไฟฟ้า หรือการจี้ด้วยเลเซอร์ จะทำให้เกิดสะเก็ด ซึ่งจะหลุดเองภายใน 5 - 7 วัน ห้ามแกะสะเก็ดโดยเด็ดขาดเพราะอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้

2. ควรหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดจัด ๆ เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นอีก

3. ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไปเป็นประจำ

4. ควรดูแลบริเวณที่ทำการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะกรณีที่ใช้เลเซอร์

หากได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างถูกต้องก็จะไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ จากการรักษา แต่ถ้าปฏิบัติไม่ถูกต้อง เช่น แกะสะเก็ดที่เกิดจากการรักษาก็อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้ครับ

หากหลีกเลี่ยงแสงแดดได้ก็ควรทำ เพราะเป็นการรักษาผิวพรรณของคุณไม่ให้หมองคล้ำ เกิดจุดด่างดำขึ้นอีกครับ แล้วอย่าลืมวิธีที่หมอแนะนำหลังการรักษากระเสียนะครับ คุณจะได้ไม่ต้องมาให้หมอจัดการซ้ำอีก


การดูแลผิว++แบบง่ายๆ



การดูแลผิว++แบบง่ายๆ

คุณต้องรู้ก่อนว่าคุณมีสภาพผิวอย่างไร เช่น มีผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวผสม และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องตามสภาพผิว ซึ่งการดูแลผิวขั้นพื้นฐานนั้นสำคัญที่สุด มี 2 ขั้นตอนหลัก ขั้นตอนแรกคือ คลีนซิ่ง หรือการทำความสะอาด อันนี้ถือเป็นกุญแจสำคัญในการดูแลผิว เลยกว่าได้ เพราะหากเราไม่ทำความสะอาดผิวให้ดีพอ จะทำให้สิ่งสกปรกตกค้างภายในรูขุมขน และเกิดการอุดตัน จนเป็นสิวได้หรืออาจเกิดริ้วรอยได้เช่นกัน

เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอย่างไร ถึงจะดี

การเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดง่ายมาก

ถ้าคุณแต่งหน้าเยอะควรใช้คลีนซิ่ง ครีม, คลีนซิ่ง โลชั่น หรือคลีนซิ่ง เจล เพราะจะช่วยขจัดเมกอัปได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณผิวมัน แต่งหน้าเยอะเลือกใช้คลีนซิ่งชนิดโลชั่น หรือเจล หากผิวแห้งแต่งหน้าเยอะก็เลือกใช้ชนิดครีมค่ะ อย่าลืมใช้คลีนซิ่ง โฟม ด้วย เพราะโฟมจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ติดค้างภายในรูขุมขนอีกครั้งหนึ่ง

โลชั่นปรับสมดุลผิว

ขั้นตอนนี้คนส่วนใหญ่มองข้ามไปเลย เพราะนึกว่าไม่สำคัญ ล้างหน้าเสร็จปุ๊บ ตามด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เลย ซึ่งถือว่าเป็นเข้าใจผิดอย่างมหันฑ์ เพราะขั้นตอนการใช้โลชั่นปรับสมดุลผิวนี้จะช่วยให้ผิวอ่อนนุ่ม ไม่แห้งตึง หลังการล้างหน้า ช่วยกระตุ้นการซึมซาบของ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้ลงสู่ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ หลังการเช็ดโลชั่น ที่ผิวหน้ายังสามารถเช็ดบริเวณลำคอ หลังมือ ข้อศอกเพื่อให้ผิวอ่อนนุ่มขึ้นได้อีกด้วยครับ เรียกว่าใช้ได้หลากหลายวัตถุประสงค์

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการดูแลผิว และเปรียบเสมือนเสื้อคลุมปกป้องผิวจากสิ่งแวดล้อมภายนอก คงความชุ่มชื่นให้ผิวอ่อนนุ่มชุ่มชื้นขึ้น

เลือกผลิตภัณฑ์กันแดดอย่างไรให้เหมาะกับผิวคุณ

ก่อนอื่นต้องเลือกผลิตภัณฑ์กันแดด ที่สามารถป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ทั้งสองแบบ เหตุผลก็คือจะสามารถป้องกันทั้งการเกิด ฝ้า กระ จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ ที่เกิดจากรังสี UVB และป้องกันการเกิดริ้วรอย ที่เกิดจากรังสี UVA และแนะนำให้ดูว่า หน้ากล่องจะระบุคำว่า SPF นั่นคือ ค่าป้องกันรังสี UVB หากปกป้องระหว่างวัน เลือก SPF 15 ขึ้นไป และคำว่า PA ค่าในการป้องกันรังสี UVA ที่ระบุด้วยเครื่องหมาย ถ้าเห็นว่า มี แสดงว่าให้การป้องรังสี UVA อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ขอแนะนำว่า (สำหรับอากาศในเมืองไทย ที่มีแต่ร้อน และร้อนที่สุด ควรเลือก SPF 30 และ PA )

สำหรับการปกป้องระหว่างวัน และหากออกแดดจัด ก็เลือกประมาณ SPF 50 PA ก็ดีเลยครับ แต่อย่าไปเลือกที่มีค่า SPF สูงมากเกินไป เพราะค่าในการป้องกันแดดแทบจะไม่แตกต่างกันเลย แถมอาจจะทำให้เรารู้สึกไม่สบายผิวด้วยครับ

สาวผิวมัน เลือกใช้กันแดดชนิด โลชั่นนะครับ แต่สาวผิวแห้ง เลือกใช้แบบครีมจะดีกว่า ครับ เพราะจะให้ความชุ่มชื้นสูง ซึ่งในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์กันแดด ที่ให้การปกป้องและฟื้นฟูผิวไปพร้อมๆ กัน


กลเม็ด_โกงให้ผอม


1. การบริโภคและโภชนาการ

1.1 ใช้ _"มือ"_เป็นเครื่องตวงอาหาร โดยกะสัดส่วนอาหารที่จะบริโภคในจานไม่ให้เกิน 1 ฝ่ามือ (ทั้งหมดของจานนะจ๊ะ ไม่ใช่แต่ละอย่าง)

1.2 แทนที่จะคว้าคุกกี้เข้าปากเป็นอาหารว่างก็เปลี่ยนเป็นผลไม้อบแห้งแทน แคเลอรี่น้อยกว่ากันเยอะเลย

1.3 อย่ากินจน_"จานสะอาด"_ทุกครั้ง หัดเหลือติดก้นจานไว้บ้างเพราะคนผอมมักชอบกินแล้วเหลือ ถ้ามัวเสียดายของนี่แหละทำให้ใส่ทุกอย่างลงท้องหมด แล้วรีบเรียกคนมาเก็บจานไปให้พ้นๆหน้าเสียเร็วๆ

1.4เอาข้าวและของว่างจากบ้านไปกินที่ทำงานจะประหยัดได้ทั้งเงินและแคลอรี่และไม่ต้องวิ่งหาขนมหวานๆกินตอนบ่ายด้วย


2. แต่งตัวพรางให้ดูผอม

2.1ใส่ชุดดำ โดยเฉพาะชุดติดกัน ช่วยให้รูปร่างดูผอมเพรียวขึ้นมาทันที และสีดำก็เป็นสีที่ช่วยให้ผอมทันใจที่สุด

2.2 อย่าใส่กำไลข้อเท้า มันทำให้ขาคุณดูสั้นลงและกว้างขึ้น ไม่ควรเน้นส่วนแขนขาในการแต่งกายหากคุณเป็นคนเจ้าเนื้อ ทั้งยังแสดงรสนิยมไม่ดีด้วย

2.3 ใส่รองเท้าส้นสูงแบบที่ส้นช่วยให้ขาดูเพรียวขึ้น เลือกเป็นแบบที่ไม่ใช่ส้นตึกที่จะทำให้ดูขาตัน ถ้าจะให้ดี ให้เลือกส้นรูปตัววีหรือส้นที่ไม่สูงเกินสองนิ้วจะช่วยให้ดูผอมเพรียวลง

2.4 ใส่ชุดลายทาง จะช่วยให้ดูดีกว่าลายขวางทั้งไม่เน้นสัดส่วนที่มากเกินไปของคุณให้ดูโดดเด่นเกินไปด้วย

2.5แต่งตัวโดยใช้สีเดียว จะผอมลงได้ทันที เลือกสีเข้มๆแบบเรียบๆ หรือถ้าต้องใส่สีอื่นๆด้วยก็เลือกที่ใกล้เคียงกันมากที่สุด

2.6 อย่าเลือกชุดสีสดหรือจัด เพราะจะทำให้ดูตัวใหญ่และ"ชัดเจน"มากขึ้นไปทั้งตัว

2.7 เลือกแต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆจะได้ดูตัวเล็กลงเวลานั่งหรือนอน

2.8 เมกอัพด้วยโทนสีธรรมชาติ เน้นที่ดวงตาและควรทาปากสีอ่อนเพื่อไม่ให้คางใหญ่โตของเราดูเป็นจุดเด่น อย่าปัดแก้มสีจัดจนเกินไปจะทำให้ดูหน้ากลมและกางหนักขึ้นไปอีก

2.9 เพื่อเพิ่มความเรียวยาวของใบหน้า เลือกผมแสกข้างและปล่อยผมให้ยาวเคลียแก้มจะดีกว่าแสกกลางหรือรวบผมให้เห็นหน้ากลมๆ

2.10 เปลี่ยนสีผิวด้วยครีมเปลี่ยนสีผิวให้คล้ำลงเพื่อจะได้ดูตัวเล็กลงด้วย

2.11 ระวังเรื่องกรอบแว่นตาให้สมดุลกับหน้า กรอบแว่นที่เล็กหรือใหญ่เกินไปทำให้หน้าดูใหญ่ขึ้นได้

2.12 หากมีข้อมือและนิ้วที่อ้วนใหญ่ ให้ใส่แหวนหรือนาฬิกาที่มีสายหรือตัวเรือนกว้างๆจะดีกว่าแบบเรือนเล็กๆที่เน้นให้ดูแขนและนิ้วดูใหญ่ขึ้น


3. การออกกำลังกายและการเคลื่อนไหวร่างกาย

3.1 เวลาเดิน ให้แกว่งแขนไปด้วยน้อยๆเพื่อให้ร่างกายได้ออกกำลังและคนก็ลดความสนใจหุ่นตึกของเราเพราะมัวดูแขนที่แกว่งไปมาอยู่

3.2 หากเลือกการเดินออกกำลังก็เดินเพื่อจุดประสงค์นี้จริงๆ อย่าจบท้ายด้วยการเดินไปหาของกินแบบกระหน่ำเพื่อชดเชยแรงงานที่เสียไป แบบนั้นอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้นไดด้อีกแยะ

3.3 อย่านั่งนานเกินกว่า 30 นาที ลุกขึ้นขยับไปทำอย่างอื่นบ้างจะได้ไม่ลงพุง

3.4 เวลานั่งไขว่ห้าง ให้ไขว่ห้างจากข้อเท้าแทนที่จะเป็นจากหัวเข่าเพราะจะทำให้ดูขาเล็กลง และดูมีมารยาทดีกว่ากันด้วย

3.5 ให้ช่างผมฝีมือดีๆซอยทรงผมเพื่อให้ดูหน้าเรียวลง เลือกทรงที่ซอยไล่เป็นชั้นๆจะทำให้อ่อนเยาว์และคล่องตัวขึ้น เพราะคนผอมมักทำอะไรคล่องแคล่ว


4. กินข้าวนอกบ้าน

4.1 ก่อนไปร้านอาหาร พูดกับตัวเองหน้ากระจกเงาว่า "กรุณาเอาตะกร้าขนมปังออกจากโต๊ะได้ไหมคะ" และตั้งใจมั่นว่าจะพูดแบบนี้กับบริกรที่เอามันมาวางไว้เมื่อถึงร้าน

4.2 เลือกร้านอาหารแพงๆ เพราะร้านพวกนี้คุณจะสามารถสั่งอาหารแบบไดเอตพิเศษได้ในเมนูที่เตรียมไว้เฉพาะ นอกจากนี้ร้านแบบนี้ยังมักเสิร์ฟอาหารในปริมาณที่น้อยๆแบบผู้ดีที่ไม่นิยมกินอะไรกองโตๆ และราคามันก็แพงลิบเกินกว่าจะสั่งมากินได้หลายๆจานอีกด้วย

4.3 ถ้ามีเมนูของหวาน ให้หนุ่มที่ไปด้วยสั่งเฉพาะของเขา และขออนุญาตด้วยท่าทางน่ารักของคุณเพื่อ "ชิม" สักคำ (โตๆ) คำเดียวก็พอ

4.4 เวลาสั่งอาหาร หัดพูดคำว่า "จานเล็กนะคะ" ให้ติดเป็นนิสัย ไม่ต้องสั่งเผื่อคนทั้งโต๊ะ

4.5 เวลาจะไปกินข้าวนอกบ้านให้ _"คิด"_ล่วงหน้าตั้งแต่อยู่ในรถว่าจะสั่งอะไรกิน และค่อยๆ "ตัด" รายการที่ไม่จำเป็นออกจนเหลือไม่เกิน 2 ชนิด

4.6 อย่าสั่งของที่มีคำว่า เดอลุกซ์ หรือ จัมโบ้

4.7 อย่าดูเมนูนานกว่า 5 นาที เพราะจะอยากสั่งไปหมดทุกอย่าง


5. การเปลี่ยนพฤติกรรมและเล่นเกมกับสภาพจิตใจ

5.1 แขม่วท้อง นั่งหลังตรงยืดตัวตรงเวลาเดิน วิธีนี้ทำให้ดูผมลงได้ทันทีและทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรงขึ้นด้วยหากทำได้เป็นประจำ

5.2 อย่ายืนกิน เพราะเราจะเผลอกินอาหารบางอย่างมากเกินไปด้วยความลืมตัว

5.3 หัดยืนแบบนางงาม คือยืนหันข้างนิดๆให้ปรากฎโฉมร่างกายแค่สามส่วนสี่เท่านั้นก็พอแล้ว ไม่ใช่ยืนตรงโชว์หุ่นตึกแบบเต็มที่

5.4 กินอะไรรองท้องก่อนออกไปช้อปปิ้ง จะได้ไม่ลืมตัวกระหน่ำซื้อของกินมากเกินไปจนล้นตู้เย็นแล้วก็ต้องก้มหน้าก้มตากินให้หมดแบบที่เคยทำ

5.5 ลองนั่งทำเล็บมือเมื่อรู้สึกหิวแทนการเข้าครัวคว้าของใส่ปาก ทาสีเล็บหนาขึ้นอีกสักชั้น นิ้วจะสวยขึ้นแถมยังหยิบอะไรเข้าปากไม่ได้เพราะกลัวสีเลอะ

5.6 โทรไปหาเพื่อนที่คุยเก่งเวลาหิว และอย่าใช้โทรศัพท์เครื่องที่อยู่ในครัว คุยไปนานๆก็จะลืมหิวไปได้เอง

5.7 อย่ากินไปด้วยทำงานไปด้วย เพราะมันทอดหมดไปถุงโดยไม่รู้ตัว ควรมีสมาธีเมื่อกิน เมื่อจบแล้วก็คือเลิกและไปทำอย่างอื่น

5.8 พยายามยืนใกล้คนที่ตัวใหญ่กว่าเราเอาไว้ เราจะได้ดูตัวเล็กลง อิอิ

5.9 แอบดูคนผอมที่อยู่ในออฟฟิศด้วยกัน แล้วสังเกตพฤติกรรมการกินของเขามาเลียนแบบบ้างสักอย่างก็ยังดี

5.10 เลือกยาอมระงับกลิ่นปากที่ใช้พกประจำเป็นแบบ _"สตรองมินท์"_ เพราะพวกนี้มีแคลอรี่น้อยกว่าและทำให้อยากอาหารน้อยกว่าด้วย

5.11 อย่าซื้อแต่ของโปรดที่ชอบเวลาไปจ่ายของ เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นบ้าง


6. เครื่องมือช่วยให้ดูผอม

6.1 กินด้วยตะเกียบ เพื่อให้กินช้าลงและปริมาณของเข้าปากน้อยลงในแต่ละครั้งด้วย

6.2 เข้าไปถ่ายรูปในร้านแบบคอมพิวเตอร์ และขอให้เขาแต่งภาพให้คุณดูผอมเพรียวลงและเอามันมาติดไว้หน้าตู้แต่งตัว หน้าตู้เย็นและที่อื่นๆให้เต็มบ้านเลย จะได้บอกตัวเองว่าเวลาผอมลงเราสวยแค่ไหน แล้วจะได้คิดก่อนเวลาจะเปิดตู้เย็นหรือหยิบของเข้าปาก

6.3 รัดเข็มขัดให้แน่นเข้ามาอีกนิดหนึ่งก่อนมื้ออาหาร คุณจะได้คิดถึงเส้นรอบเอวก่อนตักของเข้าปาก

6.4 ซื้อชามสลัดใหญ่ๆมาเป็นอาหารประจำ จะได้ใส่ผักมากขึ้นไง


7. การเดินทาง

7.1 เวลาเข้าพักที่โรงแรม แทนที่จะขบเคี้ยวที่มินิบาร์ด้วยผลไม้สดจะดีว่ามันทอดหรือช็อคโกแลตที่ชอบหยิบกินประจำ

7.2 เลือกพักในโรงแรมที่มีห้องออกกำลังกาย สำหรับแขกที่มาพักและลงไปใช้บริการอย่างน้อย 1 ครั้งในช่วงที่เข้าพัก

7.3 เมื่อเข้าเช็กอินที่โรงแรม อย่าถามถึงซูเปอร์มาร์เก็ตหรือตลาดอาหารกับพนักงาน แต่ให้ลองเดินหาเองรอบๆบริเวณจะได้ออกกำลังไปด้วย

7.4 ยกที่นั่งในรถเมล์ ไปให้กับคนอื่นหรือเลือกยืนแทนเพื่อจะได้เผาผลาญแคเลอรี่ได้มากกว่า

7.5 จอดรถให้ไกลจากจุดหมายที่ต้องการหรือลงจากรถเมล์ก่อนป้ายจริงสัก 1 ป้าย เพื่อจะได้เดินออกกำลังกายไปถึงที่หมาย

7.6 เมื่อเข้าพักในโรงแรมที่มีบริการอาหารเช้าหลังมื้อเช้าแล้ว ให้ติดผลไม้ขึ้นมาที่ห้องเพื่อเป็นของว่างระหว่างวัน

7.7 หิ้วกระเป๋าเอง จะได้หุ่นดีเหมือนพวกพนักงานยกกระเป๋าบ้างยังไงล่ะ พวกนี้เขาออกกำลังกายกันประจำ


8. เครื่องดื่มช่วยผอม

8.1ซื้อแก้วไวน์ใบเล็กๆจะได้ค่อยๆจิบและเพลินกับกลิ่นของมันแทนที่จะซดเอาๆจนหมดขวด

8.2 เลือกระหว่างไวน์หวานกับไวน์หลังอาหารธรรมดาๆแบบหวานจะมีแคลอรี่ถึง 185 แคลอรี่ซึ่งมากกว่าในบราวนี 1 ชิ้นเสียอีก

8.3 อย่าดื่มเครื่องดื่มที่มี_"ร่ม"_แต่งอยู่ด้วยจากประสบการณ์บอกว่าพวกนี้มักใช้แก้วขนาดใหญ่กว่าปกติและเราก็จะได้แคลอรี่มากกว่าปกติด้วย

8.4 ซื้อเหล้าลิเคียวร์ราคาแพงมาดื่ม ยิ่งแพงเท่าไร คุณจะกล้าดื่มมันน้อยลงเท่านั้น

5 อาการสุดอาย_ที่หญิงไม่อยากเป็น


อาการ 5 อย่างที่ผู้หญิงถ้าเป็นแล้วจะอายมาก แต่ไม่ต้องกังวล มีวีธีป้องกันได้


1.
เชื้อราในช่องคลอด
ตรวจภายในกับสูตินรีแพทย์ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเหมือนไปหาแพทย์ผิวหนังเพื่อรักษาสิว และยังมีอาการคันแปลกๆที่ถ้าใครรู้จะคิดว่าเราเป็นผู้หญิงไม่รักษาความสะอาดหรือเปล่า

ไม่ต้องอาย คุณมีเพื่อนผู้หญิงไทย 1 ใน 10 คน รู้รสอาการคันนี้มาแล้ว และคนที่มีโอกาสเป็นมากคือ คนที่รักษาความสะอาดมากที่สุด (พอๆกับคนที่สกปรกที่สุด)

อาการ คันคืออาการแรกที่รู้สึกได้และจะรู้สึกมากขึ้น บ่อยขึ้น ไม่เลือกเวลา จนทนไม่ไหวต้องไปหาหมอ มีตกขาวเหมือนผงแป้งในช่องคลอด หรือปากช่องคลอด ฉี่แสบขัด ช่องคลอดแดง แสบและแห้ง

ต้นเหตุของอาการ จิมมี่รา มาจากเชื้อราแถวจุดซ่อนเร้ ที่ชอบความอับชื้น ถ้ายิ่งรัด ยิ่งอับ เชื้อราจะมาได้ง่าย แต่ถ้าสะอาดเกินไปล้างทุกครั้งใช้น้ำยาทำความสะอาด น้องสาวตลอดเวลา เชื้อโรคดีดีในช่องคลอดก็ถูกทำลาย ไม่มีอาวุธต่อสู้กับเชื้อรา ก็เป็นได้เหมือนกัน

สาเหตุ
1.
หมกชุดชั้นในนานแล้วค่อยซักครั้งหนึ่ง เชื้อราจะเกิดได้ง่ายเพราะชื้นและอาจมีคราบแป้งตกขาวติดอยู่ที่ชั้นใน
2.
นุ่งกางเกงรัดๆหรือนุ่ง สเตย์ รัดๆ
3.
ตากชั้นใน ผ้าเช็ดตัวในห้องน้ำ
4.
ใช้สายฉีดน้ำชำระล้างจุดซ่อนเร้น
5.
กินยาฆ่าเชื้อหรือแก้อักเสบบ่อยๆ

วิธีแก้ไข
1.
ถ้าเริ่มรู้สึกคันๆ ผิดปกติ ให้ทานโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยวให้มากๆเข้าไว้ "แลคดตบาซิลลัส" ช่วยคุณได้
2.
พักผ่อนให้พอ ไม่เครียด ทำร่างกายให้แข็งแรง จะได้มีภูมิต้านทานอยู่เสมอ
3.
ทำความสะอาด "น้องสาว" ด้วยน้ำสะอาด และเช็ดให้แห้งก็พอ
4.
ใส่ชั้นในเป็นผ้าฝ้ายหรือผ้าที่ระบายอากาศได้ดี บางวันอาจจะใส่เป็นสลิปหรือซับในที่เป็นกางเกงแทนบิกินี หรือกางเกงในบ้าง

ถ้าเป็นผื่นแดงๆหรือเป็นขุย ตามง่ามขาหรือขาหนีบ ให้ใช้ครีมที่รักษาเชื้อรา เช่น คาเนสเทนทาวันละ 1-2 ครั้ง (ใช้ทาเฉพาะภายนอก) แต่ถ้าคันในช่องคลอดหนักมาก ต้องใช้ยาเหน็บช่องคลอด เช่น คาเนสเทน วีอาร์ ซึ่งควรให้แพทย์สั่ง เพื่อการรักษาที่ได้ผลเต็มที่และไม่ดื้อยา


2.
เริม
ไปทำอะไรมาล่ะ นี่คือความคิดของคนอื่นเมื่อรู้ว่าเราเป็นเริม เพราะแค่จามหรือหายใจรดกัน คงไม่ทำให้เป็นเริมได้ เป็นเริมในร่มผ้ายังพอปิดกันได้ แต่เวลาที่เป็นเริมที่ริมฝีปาก จะหลบหน้าใครเขาได้

ไม่ต้องอาย เริมเป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง เกิดจากเชื้อไวรัส อาจติดมาจากใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกันก็ได้ และเริมที่ปากกับอวัยวะเพศมาจากเชื้อคนละตัวกัน (แต่เดี๋ยวนี้เริ่มมาจากเชื้อตัวเดียวกัน เมื่อปากทำงานต่ำลง) สาวโสดก็เป็นได้ ถ้าเริ่มจากเป็นเริมที่ปากแล้วเผลอเอามือไปจับ แล้วไปเกาถึงข้างล่าง

อาการ

มีตุ่มน้ำใสๆ 2-3 ตุ่ม ขึ้นรวมกันเป็นกระจุก เจ็บๆคันๆ ถ้าตุ่มแตกจะปวดแสบปวดร้อน เป็นครั้งแรกอาจจะมีไข้ผสมด้วย "เริมเป็นแล้วไม่หายขาด จะกลับมาเมื่อร่างกายอ่อนแอ

ดูแลตัวเอง

1.
อย่าเครียด รักษาร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ
2.
นอนหลับพักผ่อนให้พอ โอกาสติดเชื้อไว้รัสจะน้อยลง
3.
ใส่เสื้อผ้าโปร่งสบาย เริมชอบความอับชื้นและร้อน เพราะไวรัสเติบโตได้ง่าย
4.
ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ
5.
ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเซ็กซ์

วิธีแก้ไข
1.
หยุดดื่มเหล้า เบียร์ สำหรับคนที่เคยเป็นแล้ว ถ้าดื่มหนักมากไป เริมจะกลับมาเยี่ยมอีก
2.
ใช้เสื้อผ้า ใช้แก้วน้ำร่วมกับคนอื่น

กษาตามอาการ เช่นถ้าปวด ก็กินยาแก้ปวด และกินยาป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย
ถ้าใครปวดมากๆแนะนำให้นั่งแช่น้ำอุ่นในกะละมัง ครั้งละ 10-15 นาที วันละ 2-3 ครั้ง หรือทายากลุ่ม acyclovir Zovirax, Vilerm เป็นต้น ส่วนยากินเหมาะกับคนที่เป็นซ้ำบ่อยๆ คือ Zovirax หรือ Valtrex ควรให้แพทย์เฉพาะทางเป็นคนจ่ายยา


3. ริดสีดวง
ถ้าไม่เป็นจะไม่เข้าใจคำว่า ลมมันเย็น ได้เลย ถ้าเทียบความอายแล้วอาจจะน้อยกว่าเจ็บ เพราะเวลาที่ความเจ็บมากขึ้น ความอายจะเท่ากับศูนย์

ไม่ต้องอาย เชื่อหรือไม่ ทุกคนมีสิทธิ์เป็นได้ทั้งนั้นเพราะทุกคนมีเนื้อเยื่อริดสีดวง!!

อาการ

บางคนถ่ายออกมาเป็นเลือดสดหลังถ่ายหนัก บางคนเลือดไม่ออก แต่นั่งไม่ลงเพราะมี หัวริดสีดวง ยื่นออกมาข้างนอก (ริดสีดวงภายนอก)หรือบางคนอาจจะเจ็บอยู่ข้างใน (ริดสีดวงภายใน) ซึ่งเกิดจากความดันในหลอดเลือดดำบริเวณประตูหลังเพิ่มมากขึ้นจนโป่งพอง กลายออกมาเป็น หัวริดสีดวง อาจจะมาจากท้องผูก ถ่ายท้องบ่อย (ทำให้ต้องเบ่งบ่อยๆ)นั่งถ่าย และถ้าหนักมากขึ้นผนังหลอดเลือดจะแตกปริ ทำให้เกิดแผลและเลือดออกและอาจจะหายหลับเป็นปกติได้เมื่อหายอักเสบแล้ว

ดูแลตัวเอง
1.
ทานผัก ผลไม้และดื่มน้ำเยอะๆ ป้องกันท้องผูก
2.
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลำไส้จะทำงานได้ดีขึ้น

วิธีแก้ไข
1.
อย่านั่งนานๆ ยืนนานๆ
2.
ใส่กางเกงหรือกางเกงชั้นในรัดเกินไป

นั่งแช่น้ำอุ่นวันละ 5-10 นาที วันละ 2-3 ครั้งจะช่วยลดความเจ็บปวดและช่วยให้หัวริดสีดวงยุบลงได้ จากนั้นไปซื้อยาทา เช่น Protosedyl หรือ Anusal ประมาณ 7-10 วัน จะช่วยให้ยุบลงและถ้าไปหาหมออาจจะสั่งให้กินยาให้หลอดเลือดแข็งแรงร่วมด้วย เช่น Daflon


4.
ปากเหม็น เท้าเหม็น มีกลิ่นตัว

สิ่งที่ลำบากที่สุดเมื่อตกอยู่ในอาการนี้คือ แค่นั่งเฉยๆ กลิ่นก็ยังฟ้อง หน้าตาสวยแค่ไหน ก็กลบกลิ่นไม่ได้

ไม่ต้องอาย ยอมรับความจริงแล้วเริ่มต้นรักษาดีกว่า

อาการ

กลิ่นปากอาจจะเกิดฟันผุ ต่อมทอนซินอักเสบ กลิ่นตัวมาจากต่อมเหงื่อทำงานมากผิดปกติ ทำให้มีแบคทีเรียสะสม จนมีกลิ่นออกมา คนที่กลิ่นเท้าแรงๆอาจจะมีแบคทีเรียอยู่ตามง่ามนิ้วเท้าหรือฝ่าเท้าได้

ดูแลตัวเอง

กลิ่นปาก
1.
พกน้ำยาบ้วนปากเป็นประจำ แปรงฟันบ่อยๆและตรวจฟันสม่ำเสมอ
2.
เลี่ยงอาหารที่มีรสจัด กลิ่นแรง

กลิ่นตัว
1.
อาบน้ำฟอกสบู่ที่ผสมตัวยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เช่น สบู่ผสมเฮกซ่าคลอโรฟิน หรือ ผสมเฮกคลอเฮกซีติน
2.
ใส่เสื้อผ้าบางๆโปร่งๆ ไม่ใส่เสื้อผ้าซ้ำ

กลิ่นเท้า
1.
ทำความสะอาดรองเท้าบ่อยๆ ใช้แผ่นรองระบายอากาศในรองเท้า เอารองเท้าไปตากแดด
2.
เปลี่ยนถุงเท้าทุกวัน และรอให้เท้าแห้งก่อนใส่ถุงเท้า
3.
ใส่รองเท้าให้ถูกขนาด ป้องกันเล็บขบ
4.
ขัดเท้า ตัดเล็บให้สะอาดอยู่เสมอ (ไม่ปล่อยให้มีขี้เล็บติดค้างอยู่ในเล็บ)
5.
ใช้สเปรย์ดับกลิ่น หรือแป้งลดเหงื่อเท้า
6.
ลองใช้ยาที่รักษาสิว พวกเบนซอย เพอริออกไซด์ มาทาที่ฝ่าเท้าดู จะช่วยลดแบคทีเรีย

5. นอนกรน
อาการนี้จะลดระดับความอายลงไปเรื่อยๆถ้าได้อยู่กับคนสนิท หรือแทบเป็นศูนย์เมื่อนอนคนเดียว แต่ลองคิดถึงคืนแรกที่คุณต้องนอนร่วมเตียงกับผู้ชายในฝันที่อยากฝากชีวิตไว้กับเขาตลอดไปสิ เช้าวันต่อมาจะเป็นอย่างไร..และที่ร้ายที่สุด เวลานั้นมันบังคับตัวเองไม่ได้จริงๆ

ไม่ต้องอาย ความลับนี้จะรู้เฉพาะคนที่นอนกับเราเท่านั้นล่ะ

อาการ

เสียงหายใจดังๆ เวลาหลับ ทำให้ผู้หญิงหน้าตาสวยงาม สามารถกลายเป็นหัวจักรรถไฟหรือโรงสีข้าวได้เพียงเธอหลับตา

ดูแลตัวเอง
1.
นอนตะแคงจะช่วยให้หายใจได้ดีขึ้น ลองใช้หมอนลูกเล้กรองหลังไว้ไม่ให้พลิกตัวตอนหลับ
2.
ลดน้ำหนักลง คนอ้วนจะมีไขมันและมีน้ำหนักกดทับลงบนเนื้อเยื่อคอมาก ทำให้หายใจไม่สะดวก
3.
ตื่นก่อน นอนทีหลังคนอื่นเข้าไว้ เพื่อความสุขของคนรอบข้าง





สินค้ารวม